รีวิวหนังฮ่องกงที่ดีที่สุดของปี2024อีก1เรื่อง #Timestillturnsthepages ในงาน HONG KONG FILM GALA PRESENTATION 2024
Time Still Turns The Pages [A++++++++]
.
.
มันไม่ใช่ทุกคนหรอกนะ ที่จะอดทน เข้มแข็ง
รอดพ้นจากช่วงเวลาที่ ‘แทบทุกความพยายามในชีวิต กลายเป็นเรื่องที่ไร้ความหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การไม่อาจได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนนึงกับอะไรก็ตามที่รักที่สุด’
.
นี่คือหนังฮ่องกงที่เล่าเรื่องความTraumaของยุคสมัย
แรงกดดันที่เด็กในวัยกำลังเติบโตต้องพบเจอ แม้กระทั่งผู้ใหญ่ที่ยังไม่อาจหลีกหนีความLostบางอย่างในใจ หนังได้เล่าอย่างงดงามและสะเทือนใจเหลือเกิน ผ่านความทรงจำที่ซุกซ่อนอยู่ในไดอารี่ที่ทำให้เราได้เห็นสภาพสังคมในยุค90และปัจจุบันของฮ่องกง
.
หนังเริ่มต้นด้วยการมีปริศนาจดหมายกึ่งลาตาย
ของเด็กนักเรียนคนนึงในโรงเรียน ที่รำพึงรำพันประมาณว่า
เขารู้สึกไม่มีค่า ไม่เป็นคนสำคัญสำหรับใครๆ เป็นได้เพียงคนที้ไม่มีใครมองเห็น และไม่สมควรที่จะอยู่
หนังเปิดด้วยตัวละครอาจารย์ชายหนุ่มคนนึง ที่พยายามพูดคุยกับเด็กคนนึงที่มีปัญหากับเพื่อนๆ และขณะเดียวกันก็พยายามหาไปด้วยว่า ใครคือเจ้าของจดหมายฉบับนี้ แต่หนังได้เล่าย้อนไปถึงชีวิตวัยเด็กของอาจารย์คนนี้ ในวัยเด็กที่เขาเคยผ่านเรื่องที่โหดร้ายที่สุดเรื่องนึงมา ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับครอบครัวของเขา
.
.
นั่นคือเขามีพี่น้อง ที่เติบโตมาด้วยกัน
แต่หนึ่งในนั้น มักถูกเปรียบเทียบกับอีกคน
ที่เก่งกว่า หลายครั้งหลายครา จนมีปม
หนังค่อยๆพาเราเข้าไปนั่งในก้นบึ้งของจิตใจเด็กน้อยผู้นี้
ก่อนที่เราจะแตกสลายตามเขาไปด้วยการกระทำบางอย่างที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนทั้งครอบครัวนี้ไป
.
เราชอบชื่อหนังมาก เราคิดว่ามันคงมีความหมายทำนองว่า เวลาอาจผ่านไป บันทึกชีวิตที่เราต้องเขียนหน้าต่อไป
แต่มันก็ยังมีบางหน้า บางความทรงจำ ที่ยังคงหยุดชีวิตเราไม่ให้มูฟออนไปจากตรงนั้น
.
หนังมีจุดชวนช๊อคก็แล้ว แต่การหักมุมช่วงกลางเรื่อง
ซ้อนไปอีกชั้น ทำเราเคว้งไปเลย ส่งผลให้ครึ่งเรื่องหลัง
อิมแพคเราอย่างยิ่ง ในฐานะของครูคนนึงด้วย
ที่หนังพยายามส่งแมสเสจว่า การที่เด็กคนนึงมีปัญหา
หากเราเป็นคนๆนึงที่พอจะรับฟังเขาได้ บางทีมันก็อาจทำให้ทุกอย่างไม่นำพาไปถึงจุดเลวร้ายจนเกินไป
.
หนังมีฉากที่ชวนประทับใจเหมือนฉากเป่าแตรในMonsterของลุงโคราเอดะ แต่เรื่องนี้เป็นการระบายด้วยการตะโกนจากที่สูงแทน ซึ่งจะโผล่มาในช่วงสำคัญของเรื่องในบริบทที่ต่างกัน
.
น้องๆนักแสดงเด็กเล่นดีเหลือเกิน แคสผู้ใหญ่ก็ด้วย
การเล่าเรื่อง การถ่ายภาพ การกำกับ และบทหนัง
คือโคตรดีจัดๆ ทรงพลังอย่างยิ่งยวดจนมีคนถามในQ&Aว่า กำกับยังไงให้ไม่Traumaเกินไประหว่างทำ จนคนทำต้องบอกว่า เขาต้องพยายามไม่จมกับหนังมากไป ไม่เช่นนั้นคงดิ่งแน่นอน แต่หนังถูกสร้างมาเพื่อเป็นissueให้คนกล้าพูดคุยเรื่องนี้มากขึ้น ทั้งเรื่องโรคซึมเศร้า ความกดดันของยุคสมัย การเติบโตของคนรุ่นใหม่ และการรักษาสภาพความมั่นคงทางจิตใจให้เติบโตบนแผ่นดินที่แสนเปราะบางและไม่แน่นอน
.
.
นี่คือหนัง ที่ดูจบแล้วอยากเข้าอกเข้าใจนักเรียนของเรามากขึ้น อยากจำหน้า จำชื่อพวกเขาให้ได้ แม้รู้ว่ามันคงยากมากสำหรับเราที่จะจดจำทุกคนที่มาเรียนได้ แต่อย่างน้อย ให้พวกเขารู้สึกว่ายังอยู่ในสายตา ต่อให้จะรู้สึกหมดสิ้นไร้หนทางแค่ไหน แค่มีคนๆนึงที่ทำให้ใครสักคนไม่รู้สึกเหมือนตัวคนเดียวในโลก แค่นั้นก็มากพอที่จะมีคนอย่างน้อยหนึ่งคน อยากมีชีวิตต่อเพื่อพบเจอกับวันพรุ่งนี้ได้แล้ว
ขอโอบกอดทุกคนผ่านบทความนี้
สำหรับใครก็ตามที่ความพยายามใดๆไม่เป็นผล
ไม่ถูกมองเห็น ไม่ได้รับความสำคัญ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า
จนไม่มั่นใจว่าเราควรก้าวต่อจากนี้ไปข้างหน้าหรือเปล่า
“ไม่เป็นไรนะพวกเรา ไม่เป็นไรเลยจริงๆ”
ขอหยุดก้าวสักก้าวเพื่อโอบกอดตัวเองตอนนี้ ตรงนี้
แปปนึงก็ยังดี ❤️
นี่ไม่ใช่แค่หนังที่ประทับใจที่สุดในเทศกาลหนังฮ่องกงปีนี้ แต่ยังเป็น1ในหนังที่ดีที่สุดในปีนี้ที่ได้ดูมาเลยด้วย อยากให้เขานำมาฉายในรอบปกติมากๆ
#HongKongFilmGalaPresentation #HouseSamyan
#เทศกาลภาพยนตร์ฮ่องกง #บิ๊กรีวิวหนัง #tiktokพาดู #เรื่องนี้ต้องดู #หนังฮ่องกง #หนังแอคชั่น #บิ๊กรีวิวหนัง #บิ๊กรีแอคชั่น #หนังดีบอกต่อ #รวมตัวคอหนัง #bignapat #หนังดีบอกต่อ #bignapatviralstories #HongKong
source