Scent of a Woman(1992) Climax scene : “I’ll Show You Out of Order!”
I was one of the movie that i learn that powerful language move people .
I watched this when i was in highschool very good movie indeed.
Audiogram mde by Thanin Au-aphithorn
”หนังที่ส่ง Al Pacino คว้ารางวัลออสการ์ไปครอง”
หนังเล่าถึง ”ชาร์ลี” เด็กไฮสคูลที่ตกลงรับงานดูแล ”แฟรงค์” อดีตนายทหารที่ประสบอุบัติเหตุจนสูญเสียการมองเห็น (ตาบอด)โดยระหว่างนั้น ”ชาร์ลี” ต้องออกเดินทางไป ”กรุงนิวยอร์ก” กับ ”แฟรงค์” และได้เรียนรู้ชีวิตมากมาย + ต้องรองรับอารมณ์ของแฟรงค์อีกด้วย
หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องแนวดราม่า ที่ตัวละครต่างฝ่ายต่างได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
”อีกฝ่ายเป็นเด็กหนุ่มที่มีดวงตามองเห็นเป็นปกติแต่ขาดประสบการณ์ชีวิต และอีกฝ่ายเป็นชายแก่วัยเกษียณที่ดวงตามืดบอดแต่เปี่ยมด้วยประสบการณ์”
คนหนุ่มมีไฟแต่ไร้ประสบการณ์ ถ้าเขาไม่มีคนคอยแนะนำทาง เขาอาจจะเดินทางผิดก็ได้ ส่วนชายแก่ผ่านโลกมามากมาย สูญเสียการมองเห็น ไฟในการมีชีวิตกำลังจะมอดดับถ้าเขาไม่ได้ คนที่มาเติมเชื้อไฟ ชีวิตของเขาก็อาจจะดับสูญเช่นกัน
ทั้งสองคนจึงไปกันได้ดี แม้จะมีบางช่วงที่ขัดแย้งกันก็ตาม
หนังเล่นประเด็นของการมองเห็นและตัดสินจากดวงตาและการตัดสินจากความถูกต้อง ของตัวละครในเรื่อง บางคนมีสามารถมองเห็นอะไรได้ชัดเจนแต่ก็ยังแยกไม่ออกเลยว่า ”อะไรถูกอะไรผิด”
หนังยังจิกกัดประเด็นของ ”สัจจะ” กับ ”ความถูกต้อง” ด้วยครับ และยังตั้งคำถามว่า อะไรคือความถูกต้องที่แท้จริง?
สังคมทุกวันนี้เมื่อเกิดเรื่องแล้ว ถ้าหาตัวคนผิดไม่ได้ก็จะชอบหา ”แพะ” ครับ แล้วก็โยนความผิดทั้งหมดนั่นให้ ”แพะ” โดยที่ไม่คำนึงถูก ”ความผิดถูก ”จริงๆ โดยปล่อยให้คนผิดจริงๆ ลอยนวลออกไปได้ และก็ไปก่อความผิดแบบนี้ต่อไปไม่จบไม่สิ้น
source
